ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
PREACHING GOSPEL TO ALL NATIONS

Do not be afraid, for God is with you

Child looking via a hole outside

Sometimes we get afraid of something. There can be a fear of losing a family member, fear of death or prosecution, losing a job, afraid of retirement... What should we do when we are afraid? How can we stand against the fear by ourselves? What does bible tell about fear?

เมื่อข้าพระองค์กลัว ข้าพระองค์วางใจในพระองค์
( เพลงสดุดี 56:3 )

You are not the only one who’s afraid. In fact, every single person on Earth is afraid of something at one moment in life or at another.

At first, lets understand that we are not afraid of what has happened in the past, not afraid of what is happening right this very moment. We are afraid of what may happen in the future - in a second, hour, month or year from now.

And who is in charge of your future how you see it now? Think of it - is it your boss who may fire you? Is it the doctor who’s trying to save your family member from death? Is it your enemy that is trying to kill you? Is it you in control of your own future and the step you’re taking can cause deadly consequences?

In reality, no one can control their future, and neither can you. Here is what Jesus tells about a rich man who was trying to secure his future by saving an abundant amount of grains in his barns.

แต่พระเจ้าตรัสแก่เขาว่า `โอ คนโง่ ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า แล้วของซึ่งเจ้าได้รวบรวมไว้นั้นจะเป็นของใครเล่า'
( ลูกา 12:20 )

However, you do control who you’re walking with into the future. You can walk there with God, or without God.

Whatever led you throughout your life until now, resulting in the fear - leave it alone. And walk with God, away from the darkness of your past.

If you were lucky enough to have a father, remember how safe and protected you felt with him when you were a little kid. When he held your hand and walked with you, you felt safe and joyful.

Now you have your heavenly father who created you, deeply loves you, who can walk with you from now on.

ข้าแต่พระเยโฮวาห์ แต่บัดนี้พระองค์ยังทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นดินเหนียว และพระองค์ทรงเป็นช่างปั้น ข้าพระองค์ทุกคนเป็นผลพระหัตถกิจของพระองค์
( หนังสืออิสยาห์ 64:8 )

And he is far more powerful and mighty than anyone else on Earth.

พระองค์ทรงคลี่ทางเหนือออกคลุมที่เวิ้งว้าง และแขวนโลกไว้เหนือที่ว่างเปล่า พระองค์ทรงมัดน้ำไว้ในเมฆทึบของพระองค์ และเมฆนั้นก็ไม่ขาดวิ่นไป พระองค์ทรงคลุมหน้าของพระที่นั่ง และคลี่เมฆของพระองค์ออกคลุมมันไว้ พระองค์ทรงขีดปริมณฑลไว้บนพื้นน้ำ ณ เขตระหว่างความสว่างและความมืด เสาฟ้าก็หวั่นไหวและประหลาดใจเมื่อพระองค์ทรงขนาบ พระองค์ทรงปราบทะเลให้สงบด้วยอานุภาพของพระองค์ พระองค์ทรงตีคนจองหองด้วยความเข้าพระทัยของพระองค์ พระองค์ทรงตกแต่งฟ้าสวรรค์ด้วยพระวิญญาณของพระองค์ พระหัตถ์ของพระองค์ทรงสร้างพญานาคที่ขด ดูเถิด เหล่านี้เป็นเพียงพระราชกิจผิวเผินของพระองค์ เราได้ยินถึงพระองค์ก็เป็นเพียงเสียงกระซิบ ใครจะเข้าใจถึงฤทธิ์กัมปนาทอันเกรียงไกรของพระองค์ได้"
( โยบ 26:7-14 )

Let your father lead your life. Let him take care of your future. If you remember that joyful feeling when you were a kid surrounded by parents, bring it back. Become a kid again who let parents take care of his worries.

อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะหนุนกำลังเจ้า เออ เราจะช่วยเจ้า เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาแห่งความชอบธรรมของเรา
( หนังสืออิสยาห์ 41:10 )

If we get to know God more, it'll help us understand his power. Here is how apostle John describes him.

แล้วนี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ และประกาศแก่ท่านทั้งหลาย คือว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย
( 1 ยอห์น 1:5 )
ความสว่างนั้นส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้เข้าใจความสว่างไม่
( ยอห์น 1:5 )

We also hear the same from Jesus, who is the true image of the invisible God.

อีกครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "เราเป็นความสว่างของโลก ผู้ที่ตามเรามาจะไม่เดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต"
( ยอห์น 8:12 )

When you leave the darkness and walk with God, ask yourself - can you shine the same way as your father does?

The light of our father and his son Jesus is not a usual light. The lights we know of are powered by electricity, from a wax candle or a fire wood... But the light of our father God is powered by love.

ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
( 1 ยอห์น 4:8 )

To take the victory over the enemies of this world, Jesus used the weapon that can’t be defeated. That weapon is love.

แล้วเขาถ่มน้ำลายรดพระพักตร์พระองค์และตีพระองค์ และคนอื่นเอาฝ่ามือตบพระองค์
( มัทธิว 26:67 )
ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า "โอ พระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขา เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร" เขาก็เอาฉลองพระองค์จับสลากแบ่งปันกัน
( ลูกา 23:34 )
เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว"
( ยอห์น 16:33 )

Therefore, take courage and love. Love God, your family, your neighbors and your enemies. Do not forget about yourself - love yourself as you are, with all your failures, fears and imperfections.

เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลายคือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น
( ยอห์น 13:34 )

And when there is love, there is no fear, for love drives out fear.

ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ได้ขจัดความกลัวเสีย ด้วยว่าความกลัวเป็นที่ให้ใจเป็นทุกข์ และผู้ที่มีความกลัวก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์
( 1 ยอห์น 4:18 )

We are all humans, with our weaknesses and fears. We are easily lost in our life without the light of love.

The light leaves no darkness. As we love our enemies, the light reaches them and casts away the all darkness from them.

ถ้าศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขารับประทาน และถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม
( สุภาษิต 25:21 )

Even our enemies can love. But they could be left in darkness by someone bullying them in their childhood, or by parents or friends who left them, or by some internal insecurity that left them no place in this world and pushed to the darkness.

Use your love towards your enemies, put your sword back.

พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "จงเอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย ด้วยว่าบรรดาผู้ถือดาบจะพินาศเพราะดาบ
( มัทธิว 26:52 )

Use your new undefeatable weapon - love. Go ahead and shine in this world where fearful darkness has no place to hide. For you are not alone, never alone.

Have faith, leave doubts behind. For if God is with you, who can be against you?

ไม่มีอาวุธใดที่สร้างเพื่อต่อสู้เจ้าจะจำเริญได้ และเจ้าจะปรับโทษลิ้นทุกลิ้นที่ลุกขึ้นต่อสู้เจ้าในการพิพากษา นี่เป็นมรดกของบรรดาผู้รับใช้ของพระเยโฮวาห์ และความชอบธรรมของเขามาจากเรา" พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้
( หนังสืออิสยาห์ 54:17 )